พูดไม้เซลฟี่ว่าพญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตได้ให้ข้อมูลว การแปล - พูดไม้เซลฟี่ว่าพญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตได้ให้ข้อมูลว ไทย วิธีการพูด

พูดไม้เซลฟี่ว่าพญ.พรรณพิมล วิปุลากร

พูดไม้เซลฟี่ว่า

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรม เซลฟี่ (selfie) อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตได้ โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตนเอง ซึ่งจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และส่งผลต่ออนาคต การงาน และการพัฒนาประเทศอย่างคาดไม่ถึง ส่วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล


เซลฟี่ (selfie) อย่างไรปกติ

การลงรูปเพราะอยากได้การตอบรับจากสังคม และการได้ยอดกดไลค์ ถือว่าเป็นรางวัล ซึ่งเป็นหลักปกติของมนุษย์ทั่วไป ถ้าอะไรที่ทำแล้วได้รางวัลก็จะทำซ้ำ แต่รางวัลของแต่ละบุคคลมีผลกระทบต่อความรู้สึกไม่เท่ากัน บางคนลงรูปไปแล้วได้แค่สองไลค์เขาก็มีความสุขแล้ว เพราะถือว่าพอแล้ว และหากบุคคลนั้นสามารถรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้เป็นปกติได้ เซลฟี่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต





เซลฟี่ (selfie) อย่างไร เกิดผลเสีย

แต่บางคนต้องให้มียอดคนกดไลค์มาก ๆ พอมากแล้วก็ยิ่งติดเพราะถือว่าเป็นรางวัล ในทางตรงกันข้ามหากได้รับการตอบรับน้อยไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ ทำใหม่แล้วก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจะส่งผลต่อความคิดของตัวเอง บุคคลนั้นสูญเสียความมั่นใจและส่งผลต่อทัศนคติด้านลบของตัวเองได้ เช่น ไม่ชอบตัวเอง ไม่พอใจรูปลักษณ์ตัวเอง

นักจิตวิทยาในสหรัฐอเมริกาได้ให้ข้อคิดว่า เซลฟี่ สามารถกัดกร่อนความมั่นใจความภาคภูมิใจในตัวเองได้ หากถ่ายรูปตัวเองเผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นบางโอกาส ถือเป็นการมีส่วนร่วมในสังคมออนไลน์ แต่หากมากไปและคาดหวังจดจ่อว่าจะมีใครเข้าดู เข้ามาแสดงความคิดเห็น แสดงว่าเซลฟี่กำลังสร้างปัญหา และเป็นสัญญาณหนึ่งบอกถึงการขาดความมั่นใจในตัวเอง ล่าสุดสาธารณสุขประเทศอังกฤษได้ออกมาประกาศว่า อาการเสพติดโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง ในแต่ละปีมีชาวอังกฤษเข้ารับการบำบัดมาก กว่า 100 ราย โดยสาธารณสุขอังกฤษประกาศว่า อาการเสพติดสังคมออนไลน์นี้ ถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง








วิธีป้องกันการเสพติดเซลฟี่ และการสร้างความมั่นใจตัวเองบนโลกความเป็นจริงนั้น ทำได้โดย

ต้องให้ความสำคัญกับคนรอบข้างที่เป็นสิ่งแวดล้อมจริงในชีวิตประจำวัน

หากิจกรรมยามว่างทำกับคนในครอบครัว เพื่อน ๆ เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยวพักผ่อน

ต้องยอมรับในความแตกต่างของคน ที่ไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพื่อที่เราจะได้เข้าใจ ไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

ต้องฝึกความอดทนให้กับตัวเอง เพราะการถ่ายเซลฟี่ไม่สามารถที่จะทำได้ตลอดเวลา ครั้งไหนที่ทำไม่ได้ ต้องยอมฝืนใจที่จะไม่ทำ หากผ่านจุดนั้นไปได้ ในครั้งต่อ ๆ ไป ก็จะสามารถควบคุมพฤติกรรมการถ่ายเซลฟี่ได้เช่นกัน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พูดไม้เซลฟี่ว่าพญ.พรรณพิมลวิปุลากรรองอธิบดีกรมสุขภาพจิตได้ให้ข้อมูลว่าพฤติกรรมเซลฟี่ (selfie) อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตได้โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตนเอง ซึ่งจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและส่งผลต่ออนาคตการงานและการพัฒนาประเทศอย่างคาดไม่ถึงส่วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อย่างไรปกติเซลฟี่ (selfie)การลงรูปเพราะอยากได้การตอบรับจากสังคมและการได้ยอดกดไลค์ถือว่าเป็นรางวัลซึ่งเป็นหลักปกติของมนุษย์ทั่วไปถ้าอะไรที่ทำแล้วได้รางวัลก็จะทำซ้ำ แต่รางวัลของแต่ละบุคคลมีผลกระทบต่อความรู้สึกไม่เท่ากันบางคนลงรูปไปแล้วได้แค่สองไลค์เขาก็มีความสุขแล้วเพราะถือว่าพอแล้ว และหากบุคคลนั้นสามารถรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้เป็นปกติได้เซลฟี่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต เซลฟี่ (selfie) อย่างไรเกิดผลเสียแต่บางคนต้องให้มียอดคนกดไลค์มากๆ พอมากแล้วก็ยิ่งติดเพราะถือว่าเป็นรางวัลในทางตรงกันข้ามหากได้รับการตอบรับน้อยไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ เช่นทำใหม่แล้วก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจะส่งผลต่อความคิดของตัวเองบุคคลนั้นสูญเสียความมั่นใจและส่งผลต่อทัศนคติด้านลบของตัวเองได้ไม่ชอบตัวเองไม่พอใจรูปลักษณ์ตัวเองนักจิตวิทยาในสหรัฐอเมริกาได้ให้ข้อคิดว่าเซลฟี่สามารถกัดกร่อนความมั่นใจความภาคภูมิใจในตัวเองได้หากถ่ายรูปตัวเองเผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นบางโอกาส ถือเป็นการมีส่วนร่วมในสังคมออนไลน์แต่หากมากไปและคาดหวังจดจ่อว่าจะมีใครเข้าดูเข้ามาแสดงความคิดเห็นแสดงว่าเซลฟี่กำลังสร้างปัญหา และเป็นสัญญาณหนึ่งบอกถึงการขาดความมั่นใจในตัวเองล่าสุดสาธารณสุขประเทศอังกฤษได้ออกมาประกาศว่าอาการเสพติดโซเชียลมีเดียเช่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง ในแต่ละปีมีชาวอังกฤษเข้ารับการบำบัดมากกว่า 100 รายโดยสาธารณสุขอังกฤษประกาศว่าอาการเสพติดสังคมออนไลน์นี้ถือเป็นโรคอย่างหนึ่งวิธีป้องกันการเสพติดเซลฟี่และการสร้างความมั่นใจตัวเองบนโลกความเป็นจริงนั้นทำได้โดย ต้องให้ความสำคัญกับคนรอบข้างที่เป็นสิ่งแวดล้อมจริงในชีวิตประจำวัน หากิจกรรมยามว่างทำกับคนในครอบครัวเพื่อนๆ เช่นออกกำลังกายดูหนังฟังเพลงเที่ยวพักผ่อน ต้องยอมรับในความแตกต่างของคนที่ไม่เท่ากันไม่เหมือนกันข้อนี้ถือว่าสำคัญมากเพื่อที่เราจะได้เข้าใจไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ต้องฝึกความอดทนให้กับตัวเองเพราะการถ่ายเซลฟี่ไม่สามารถที่จะทำได้ตลอดเวลาครั้งไหนที่ทำไม่ได้ต้องยอมฝืนใจที่จะไม่ทำหากผ่านจุดนั้นไปได้ในครั้งต่อๆ ไป ก็จะสามารถควบคุมพฤติกรรมการถ่ายเซลฟี่ได้เช่นกัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
พูดไม้เซลฟี่ว่าพญ. พรรณพิมลวิปุลากรรองอธิบดีกรมสุขภาพจิตข้อมูลให้ได้ว่าพฤติกรรมเซลฟี่ (เซลฟี) อาจส่งผลกระทบปัญหาสุขภาพจิตต่อได้ในอนาคตโดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นหรือในความมั่นใจ ตนเองซึ่งจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการส่งผลงานและการต่ออนาคตอย่างคาดไม่ถึงส่วนพัฒนาประเทศส่งผลกระทบการดำเนินชีวิตประจำวันต่อหรือน้อยมากขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเซลฟี่ (เซลฟี) อย่างไรปกติการ ลงรูปเพราะอยากได้การตอบรับจากสังคมและการได้ยอดกดไลค์ถือว่าเป็นรางวัลซึ่งเป็นหลักปกติของมนุษย์ทั่วไปถ้าอะไรที่ทำแล้วได้รางวัลก็จะทำซ้ำ แต่รางวัลของแต่ละบุคคลมีผลกระทบต่อความรู้สึกไม่ เท่ากันบางคนลงไปแล้วได้แค่สองรูปไลค์เขาก็มีความสุขแล้วเพราะถือว่าพอแล้วเพลงหากบุคคลและความสัมพันธ์นั้นสามารถรักษารอบข้างให้กับคนเป็นปกติเซลฟี่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเซล ฟี่ (เซลฟี) อย่างไรเกิดผลเสียแต่บางต้องให้คนมียอดคนกดไลค์มาก ๆ แล้วก็มากพอยิ่งติดเพราะถือว่าเป็นรางวัลในทางตรงกันข้ามเพลงหากได้รับการตอบรับอย่างน้อยไม่เป็นที่ทำใหม่คาดหวังไว้ แล้วก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจะส่งผลต่อตัวของความคิดนั้นสูญเสียเองบุคคลและความมั่นใจส่งผลต่อตัวของทัศนคติด้านลบเองเช่นไม่ได้ไม่ชอบพอใจรูปตัวเองเองลักษณ์ตัวในสหรัฐอเมริกานักจิตวิทยา ได้ให้ข้อคิดว่าเซลฟี่สามารถกัดกร่อนความมั่นใจความภาคภูมิใจในตัวเองได้หากถ่ายรูปตัวเองเผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นบางโอกาสถือเป็นการมีส่วนร่วมในสังคมออนไลน์ แต่หากมากไปและคาดหวังจดจ่อว่าจะมีใครเข้าดู เข้ามาแสดงความคิดเห็นแสดงว่าเซลฟี่กำลังสร้างปัญหาและเป็นสัญญาณหนึ่งบอกถึงการขาดความมั่นใจในตัวเองล่าสุดสาธารณสุขประเทศอังกฤษได้ออกมาประกาศว่าอาการเสพติดโซเชียลมีเดียเช่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ถือเป็นโรคอย่างหนึ่งแต่ละปีในเข้ารับการมีชาวอังกฤษบำบัดมากกว่า 100 รายโดยสาธารณสุขอังกฤษประกาศว่าอาการเสพติดสังคมออนไลน์นี้ถือเป็นโรคอย่างหนึ่งวิธีป้องกันการติดเสพเซลฟี่และการสร้างความมั่นใจตัวเองบน โลกจริงนั้นทำได้โดยความเป็นความสำคัญต้องให้กับคนที่เป็นรอบข้างประจำวันสิ่งแวดล้อมจริงในชีวิตยามว่างทำกิจกรรมหาคนกับเพื่อน ๆ ในครอบครัวเช่นดูหนังฟังเพลงออกกำลังกายเที่ยวพักผ่อนต้องยอมรับแตกต่างของความใน คนที่ไม่เหมือนกันเท่ากันไม่ถือว่าสำคัญข้อนี้ที่เราจะได้มากเพื่อนำตัวเองเข้าใจไม่ไปกับคนอื่นเปรียบเทียบต้องฝึกความอดทนตัวให้กับการถ่ายเซลฟี่เองเพราะสามารถที่จะไม่ทำได้ตลอดเวลาครั้งไหน ที่ทำไม่ได้ต้องยอมฝืนใจที่จะไม่ทำหากผ่านจุดนั้นไปได้ในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะสามารถควบคุมพฤติกรรมการถ่ายเซลฟี่ได้เช่นกัน


































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!


พญพูดไม้เซลฟี่ว่าได้พรรณพิมลวิปุลากรรองอธิบดีกรมสุขภาพจิตได้ให้ข้อมูลว่าเซลฟี่พฤติกรรม ( ภาพตัวเอง ) อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตได้โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตนเองซึ่งจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันการงานและการพัฒนาประเทศอย่างคาดไม่ถึงส่วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล


เซลฟี่( selfie )อย่างไรปกติ

การลงรูปเพราะอยากได้การตอบรับจากสังคมและการได้ยอดกดไลค์ถือว่าเป็นรางวัลซึ่งเป็นหลักปกติของมนุษย์ทั่วไปถ้าอะไรที่ทำแล้วได้รางวัลก็จะทำซ้ำแต่รางวัลของแต่ละบุคคลมีผลกระทบต่อความรู้สึกไม่เท่ากันเพราะถือว่าพอแล้วและหากบุคคลนั้นสามารถรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้เป็นปกติได้เซลฟี่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต





( ภาพตัวเอง ) อย่างไรเซลฟี่เกิดผลเสีย

แต่บางคนต้องให้มียอดคนกดไลค์มากพอมากแล้วก็ยิ่งติดเพราะถือว่าเป็นรางวัลในทางตรงกันข้ามหากได้รับการตอบรับน้อยไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ทำใหม่แล้วก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจะส่งผลต่อความคิดของตัวเองๆเช่นไม่ชอบตัวเองไม่พอใจรูปลักษณ์ตัวเอง

นักจิตวิทยาในสหรัฐอเมริกาได้ให้ข้อคิดว่าเซลฟี่สามารถกัดกร่อนความมั่นใจความภาคภูมิใจในตัวเองได้หากถ่ายรูปตัวเองเผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นบางโอกาสถือเป็นการมีส่วนร่วมในสังคมออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นแสดงว่าเซลฟี่กำลังสร้างปัญหาและเป็นสัญญาณหนึ่งบอกถึงการขาดความมั่นใจในตัวเองล่าสุดสาธารณสุขประเทศอังกฤษได้ออกมาประกาศว่าอาการเสพติดโซเชียลมีเดียเช่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ในแต่ละปีมีชาวอังกฤษเข้ารับการบำบัดมากกว่า 100 รายโดยสาธารณสุขอังกฤษประกาศว่าอาการเสพติดสังคมออนไลน์นี้ถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง








วิธีป้องกันการเสพติดเซลฟี่และการสร้างความมั่นใจตัวเองบนโลกความเป็นจริงนั้นทำได้โดย

ต้องให้ความสำคัญกับคนรอบข้างที่เป็นสิ่งแวดล้อมจริงในชีวิตประจำวัน

หากิจกรรมยามว่างทำกับคนในครอบครัวเพื่อนๆเช่นออกกำลังกายดูหนังฟังเพลงเที่ยวพักผ่อน

ต้องยอมรับในความแตกต่างของคนที่ไม่เท่ากันไม่เหมือนกันข้อนี้ถือว่าสำคัญมากเพื่อที่เราจะได้เข้าใจไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

ต้องฝึกความอดทนให้กับตัวเองเพราะการถ่ายเซลฟี่ไม่สามารถที่จะทำได้ตลอดเวลาครั้งไหนที่ทำไม่ได้ต้องยอมฝืนใจที่จะไม่ทำหากผ่านจุดนั้นไปได้ในครั้งต่อๆไปก็จะสามารถควบคุมพฤติกรรมการถ่ายเซลฟี่ได้เช่นกัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: